วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ทรัพย์สินทางปัญญา

ความายของทรัพย์สินทางปัญญา

สิทธิทางกฎหมายที่ให้เจ้าของสิทธิ หรือ "ผู้ทรงสิทธิ" มีอยู่เหนือสิ่งที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ทางปัญญาของมนุษย์ โดยอาจแบ่งทรัพย์สินทางปัญญาออกได้ 2 ประเภทหลัก คือ (1)ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมและ (2)ลิขสิทธิ์ สำหรับทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมยังแบ่งออกได้อีก 5 ประเภท ได้แก่ (1)สิทธิบัตร (2) อนุสิทธิบัตร (3) เครื่องหมายการค้า (4) ความลับทางการค้า และ (5)สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (6)แบบผังภูมิของวงจรรวม (7)คุ้มครองพันธุ์พืช (8)ภูมิปัญญาท้องถิ่น

ลิขสิทธิ์์

สิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ริเริ่มโดยการใช้สติปัญญาความรู้ ความสามารถ และความวิริยะอุตสาหะของตนเองในการสร้างสรรค์ โดยไม่ลอกเลียนงานของผู้อื่น โดยงานที่สร้างสรรค์ต้องเป็นงานตามประเภทที่กฎหมายลิขสิทธิ์ให้คุ้มครอง โดยผู้สร้างสรรค์จะได้รับความคุ้มครองทันทีที่สร้างสรรค์โดยไม่ต้องจดทะเบียน

สิทธิบัตร

หนังสือสำคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์ (Invention) หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Design) ที่มีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด เป็นสิทธิพิเศษ ที่ให้ผู้ประดิษฐ์คิดค้นหรือผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ มีสิทธิที่จะผลิตสินค้า จำหน่ายสินค้าแต่เพียงผู้เดียว ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

เครื่องหมายการค้า

เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์หรือตราที่ใช้กับสินค้าหรือบริการ ซึ่งเครื่องหมายที่ให้ความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2543 มี 4 ประเภท ดังต่อไปนี้             1. เครื่องหมายการค้า (Trade Mark) คือเครื่องหมายที่ใช้เป็นที่หมายเกี่ยวข้องกับสินค้าเพื่อแสดงว่าสินค้าที่ ใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น เช่น บรีส  มาม่า กระทิงแดง เป็นต้น
 2. เครื่องหมายบริการ (Service Mark) คือ เครื่องหมายที่ใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับบริการ เพื่อแสดงว่าบริการที่ใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับบริการที่ใช้เครื่องหมาย บริการของบุคคลอื่น เช่น เครื่องหมายของสายการบิน ธนาคาร โรงแรม เป็นต้น


    3. เครื่องหมายรับรอง (Certification Mark) คือ เครื่องหมายที่เจ้าของเครื่องหมายรับรองใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับ สินค้าและบริการของบุคคลอื่น เพื่อเป็นการรับรองคุณภาพของสินค้า หรือบริการนั้น เช่น เชลล์ชวนชิม แม่ช้อยนางรำ ฮาลาล (Halal) เป็นต้น


    4. เครื่องหมายร่วม (Collective Mark) คือ เครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายบริการที่ใช้โดยบริษัทหรือวิสาหกิจในกลุ่ม เดียวกัน หรือโดยสมาชิกของสมาคม กลุ่มบุคคล หรือองค์กรอื่นใดของรัฐหรือเอกชน เช่น ตราช้างของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด  เป็นต้น 




พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์


พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีเพื่อกำหนดความผิดในการกระทำที่มีระบบคอมพิวเตอร์” เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์นี้ เป็นได้ทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์วางตัก คอมพิวเตอร์พกพา แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ และสมาร์ทโฟน รวมถึงระบบต่าง ๆ ที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เช่น ระบบควบคุมไฟฟ้า น้ำประปา ธนาคาร ฯลฯ
       เราต่างใช้อุปกรณ์เหล่านี้ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม แน่นอนว่าย่อมมีกลุ่มหรือบุคคลที่ใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการกระทำความผิด หรือกระทำความผิดผ่านระบบเหล่านี้ เช่น ขโมยข้อมูล ป่วนข้อมูลและระบบให้เสียหาย การกระทำเหล่านี้ถือเป็นเรื่องใหม่ทุกวันนี้คนจำนวนมากใช้อินเทอร์เน็ตเป็นดังห้องสมุดขนาดใหญ่โดยสรุปแล้ว ทุกวันนี้เราเลี่ยงไม่พ้นระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่รอบตัวเรา และนั่นทำให้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เป็นกฎหมายที่ใกล้ตัวเรามากเช่นกัน

วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557

การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

วิธีการป้องกันภัยจากอินเทอร์เน็ต

วิธีการป้องกันภัยอันตรายจาก Phishing 

สำหรับผู้ใช้งานธนาคารอินเทอร์เน็ต


ยกตัวอย่างเช่น
นาย A เปิดบัญชีกับธนาคาร DDD โดยขอใช้บริการผ่านอินเทอร์เน็ต (Internet Banking) วันดีคืนดี นาย A ได้รับอีเมล(ที่อ้างว่า)มาจากธนาคาร DDD ว่า “ทางธนาคารจะทำการอัพเกรดระบบใหม่ ขอให้นาย A เข้าสู่ระบบ เพื่อยืนยันตัวตน มิฉะนั้น เงินในบัญชีอาจจะสูญหายได้” นาย A ก็รีบคลิ้กลิงค์ที่อีเมลนั้นส่งมาให้โดยไม่ได้ตรวจสอบให้ดีก่อน ซึ่งปกติเว็บไซต์ Internet Banking ของธนาคารนี้คือ DDDbank.com/login แต่ลิงค์ที่ส่งมาให้คือ DDDbank.djf.com/login (ส่วนใหญ่พวกหลอกลวงจะทำลิงค์ให้คล้ายกับเว็บไซต์ธนาคารมากที่สุด) ซึ่งเมื่อนาย A คลิ้กลิงค์ที่ส่งมาให้ จะเจอหน้าตาเว็บ(หลอกลวง)ที่มีหน้าตาเหมือนเว็บไซต์ธนาคารอย่างกับแกะ และพอนาย A กรอกข้อมูลเช่น Username กับ Password แล้ว มิจฉาชีพก็ได้ข้อมูลสำคัญเพื่อไปเข้าเว็บไซต์ธนาคาร(ของจริง) เพื่อขโมยเงินคุณได้อย่างง่ายดาย


วิธีการป้องกันการ Phishing
1. โดยปกติแล้ว ธนาคารที่ให้บริการ Internet Banking จะไม่มีการส่งลิงค์ใดๆ มาให้กับลูกค้าผ่านทางอีเมล
2. ทำการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส, มัลแวร์ และค่อยสแกนคอมพิวเตอร์อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง รวมทั้งทำการอัพเดทฐานข้อมูลโปรแกรมป้องกันไวรัสสม่ำเสมอ
3. อย่าให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคาร Internet Banking กับใครทั้งนั้น เพราะนี่คือเรื่องส่วนตัวเป็นอย่างมาก
4. เวลาที่ต้องการใช้บริการธุรกรรมทางการเงินทางอินเทอร์เน็ต ให้พิมพ์เข้าเว็บไซต์ธนาคารโดยตรง หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ Call Center ของธนาคารนั้นๆ ว่าสามารถเข้าใช้งานส่วนนี้ได้ที่เว็บไหน
5. หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอีเมลที่ได้รับให้ลองโทรสอบถาม Call Center ของธนาคารนั้นๆ
6. พยายามหลีกเลี่ยงการใช้งาน Internet Banking กับคอมพิวเตอร์สาธารณะ

วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2557

บริการต่างๆในอินเทอร์เน็ต


World Wide Web (WWW) เครือข่ายใยแมงมุม
          
       เป็นการเข้าสู่ระบบข้อมูลอย่างข้อมูลในรูปของ Interactive Multimedia คือ มีทั้งรูปภาพ ข้อความ ภาพเคลื่อนไหว เสียง และวีดีโอ อีกทั้งข้อมูลเหล่านี้ยังใช้ระบบที่เรียกว่า hypertext กล่าวคือ จะมีคำสำคัญหรือรูปภาพในข้อมูลนั้นที่จะช่วยให้ท่าน เข้าสู่รายละเอียดที่ลึกและกว้างขวางยิ่งขึ้น คำสำคัญดังกล่าวจะเป็นคำที่เป็นตัวหนา หรือขีดเส้นใต้ เพียง แต่ท่านเลือกกด ที่คำ ที่เป็นตัวหนาหรือขีดเส้นใต้ นั้น ๆ ท่านก็สามารถเข้าสู่ข้อมูลเพิ่มเติมได้ (ข้อมูลเหล่านี้จะมีผู้สร้างขึ้นมาและเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ ต่าง ๆ ทั่วโลก)









ไปรษณีย์อิเลคทรอนิคส์ (Electronic Mail 
หรือ E-Mail)
   
      เป็นบริการหนึ่งบนอินเทอร์เนตที่คนนิยมใช้กันมากคือส่งจดหมายโดยทางคอมพิวเตอร์ถึงผู้ที่มีบัญชีอินเตอร์เน็ต ด้วยกันไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลคนละซีกโลกจดหมายก็จะไปถึงอย่างสะดวกรวดเร็วและง่ายดายโปรแกรมที่ใช้ ได้แก่HotmailYahooMai,ThaiMailและยังมี Mail ต่าง ๆ ที่ให้บริการอย่างมากมายในปัจจุบัน ตามหน่วยงานหรือ
องค์กรต่าง ๆ